++++ประกาศข่าว++++

สวัสดีค่ะ กลับมาเยี่ยมเยียนบล็อกตัวเองหลังจากหายไปปีกว่า เร็วๆนี้จะมาอัพเพิ่มค่ะ 2/09/58
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เรื่องย่อ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เรื่องย่อ แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Hakushaku to Yousei

ลอร์ดอิบราเซล ขุนนางแห่งดินแดนแฟรี่หรืออีกชื่อหนึ่งคือขุนนางสีน้ำเงิน บุรุษผู้ลึกลับนี้ได้รับทั้งยศขุนนางจากกษัตริย์แห่งอังกฤษ รวมถึงผืนดินในดินแดนแฟรี่ และด๊อกเตอร์แฟรี่ผู้ทำหน้าที่ติดต่อระหว่างมนุษย์กับแฟรี่ เป็นเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาหลายร้อยปี จนผู้คนต่างคิดว่าเป็นเพียงนิทานหรือเรื่องเล่าทั่วไปเท่านั้น แต่ทว่าเรื่องทั้งสองกลับเป็นเรื่องจริง



ลิเดีย คาร์ลตัน เป็นด๊อกเตอร์แฟรี่ที่เหลืออยู่ เธอได้รับความสามารถมาจากแม่ของตน เธอมีความสามารถที่จะสื่อสารและมองเห็นแฟรี่ในขณะที่มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถมองเห็นได้ วันหนึ่งเธอได้รับจดหมายจากพ่อที่ลอนดอน (ลิเดีย อยู่ที่สล๊อตแลนด์) ชวนให้เธอไปเยี่ยมหา เธอจึงออกเดินทางไปลอนดอน




แต่ทว่าในขณะที่เธอได้เข้าพักยังบนเรือที่มีคนกล่าวอ้างว่าพ่อของเธอเป็นคนจองห้องไว้ให้ เธอก็ได้พบกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งแอบเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเธอ และบอกว่าคนที่พาเธอมาเป็นผู้ร้าย เธอจึงตัดสินใจช่วยเขาและหนีออกมาได้เป็นผลสำเร็จ





เขาพาเธอหนีไปยังบนเรืออีกลำโดยที่เธอไม่รู้ตัว ในที่สุดเธอก็ได้รู้ว่าเขาคือ เอิร์ลเอ็ดการ์ อแชนเบิร์ต ทายาทขุนนางสีน้ำเงิน และเขาบอกกับเธอว่าเขายอมให้ผู้ร้ายจับเพื่อที่จะได้พบกับเธอ เนื่องจากว่าเขาต้องการให้เธอช่วยตามหาดาบของบรรพบุรุษที่ซุกซ่อนไว้ยังดินแดนของแฟรี่เนื่องจากตัวเขาเองได้สูญเสียความสามารถของบรรพบุรุษไปแล้ว จึงไม่สามารถติดต่อหรือไปยังดินแดนของแฟรี่ได้


ซึ่งเขาต้องการนำดาบนั้นมาแสดงตัวกับองค์ราชินีแห่งอังกฤษ ในขณะเดียวกันยังมีคนอีกกลุ่มที่พยายามหาดาบเพื่อต้องการสตาร์ซัฟไฟร์ที่อยู่ประดับบนดาบ

เรื่องราวต่อไปสนุกแน่ เห็นตอนสองแวบๆล่ะ การ์ตูนเรื่องนี้เห็นออกมาตั้งนานแล้ว แต่ว่ารูปมันสวยเกินไปเลยไม่อยากดู (ปกติชอบการ์ตูนแบบ Reborn Bleach Naruto ) คิดว่าเป็นการ์ตูนแนวตาโต ก็เลยไม่สนใจ พอดีว่าหลายเรื่องที่ผ่านมาที่เราเอามาทำเรื่องย่อมันออกแนวโหดไปหรือเปล่าหว่า เลยลองเปลี่ยนโหมดมาดูเรื่องนี้บ้าง

อ้าว! มันก็น่าดูนี่น่า 555+ แต่ครั้นจะดูจนจบแล้วมาทำแบบนาบาริ มันก็ดีนะรู้สึกว่าเข้าใจจนจบแล้วทำได้ยึดยาวดี แต่ว่า แหมถ้าดูจนจบคงไม่ได้โพสต์ไปหลายสัปดาห์หลายล่ะ 555+ งั้น ถ้าใครยังไม่ได้ดูเรื่องนี้ก็ดูไปพร้อมๆกันละนะ

อ้อ ซับไทย by Seren จ้า








Hakushaku to Yousei OP01 -

วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2552

Kuroshitsuji พ่อบ้านปีศาจ

ตระกูลแฟนทอมไฮฟ์คือตระกูลขุนนางระดับสูงผู้รับใช้องค์ราชินี จนได้รับฉายาว่าสุนัขรับใช้ของพระองค์ แต่ทว่าได้เกิดการหักหลังให้ทำให้ตระกูลแฟนทอมไฮฟ์ถูกฆ่าตายและคฤหาสน์ได้ถูกเผาจนมอดไหม้ แต่ทว่าลูกชายของผู้นำตระกูล ซิเอล แฟนทอมไฮฟ์ ซึ่งมีอายุเพียงสิบขวบเศษๆ ไม่ได้เสียชีวิตถึงแม้จะอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย

ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า จึงได้ทำการเรียกปีศาจตนหนึ่งออกมาและทำพันธะสัญญาระหว่างตนกับปีศาจ พันธะสัญญาที่ประทับสัญญาลักษณ์ไว้ที่ดวงตาข้างขวา(ส่วนปีศาจตนนั้นจะมีตราประทับที่หลังมือข้างซ้าย)เป็นเครื่องบ่งบอกว่า ซิเอลไม่อาจหนีหรือหลีกเลี่ยงจากสัญญาอันนี้ไปได้

หลังจากการหายสาบสูญไปถึงสองอาทิตย์ซิเอลก็ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับพ่อบ้านคนใหม่ ซิเอลได้สั่งให้บูรณะคฤหาสน์ที่ถูกเผาจนไม่เหลือซากกลับขึ้นมาอีกครั้งบนพื้นที่เดิม และได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลแฟนทอมไฮฟ์ผู้เป็นสุนัขรับใช้ขององค์ราชินีต่อไป โดยที่มีพ่อบ้านคนใหม่ นามว่าเซบาสเตียน ซึ่งเป็นปีศาจที่ตนได้ทำสัญญาด้วยคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ

2 ปี ผ่านไป ซิเอลได้เป็นผู้นำของตระกูลและคอยรับใช้องค์ราชินีตามคำสั่ง ทั้งการกำจัดมาเฟียข้ามชาติ และตามหาฆาตกรโรคจิตอย่าง แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ซึ่งตอนหลังซิเอลได้รู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังคดีฆาตกรรมคือน้าสาวคนเดียวของตนเองร่วมมือกับยมฑูตที่พิสมัยในสีแดงสดเลือดมนุษย์ แต่ทว่าน้าของชิเอลรักชิเอลมากจึงไม่สามารถฆ่าหลานของตนเองได้ ทำให้ยมทูตตนนั้นไม่พอใจ ฆ่านางทิ้ง ซิเอลที่อยู่ในเหตุการณ์จึงโกรธแค้นยมฑูตตนนั้นและสั่งให้เซบาสเตียนกำจัดยมฑูตตนนั้นซะ แต่ทว่าเซบาสเตียนที่เป็นปีศาจก็ไม่ทำให้ยมทูตผู้มีสถานะเป็นเทพหวาดกลัวได้ เพราะยมทูตมีอาวุธทรงพลังที่สามารถกำจัดวิญญาณหรือแม้กระทั้งปีศาจ แต่ทว่าด้วยพันธะสัญญาที่เซบาสเตียนทำไว้กับซิเอล เมื่อซิเอลต้องการให้เขากำจัดยมฑูตตนนั้น เขาก็ต้องทำให้ได้

...เราเองเพิ่งดูได้แค่ตอนนี้ เลยไม่รู้จะบรรยายต่อไปอย่างไร เอาเป็นว่าเราสงสัยมากมายว่า สัญญาที่ทำขึ้นเซบาสเตียนจะได้อะไรจากสัญญานี้ เราเคยดูเรื่องหนึ่งมันคล้ายๆกันแต่เรื่องนั้นตัวละครที่ทำสัญญาไม่ใช้ตัวเอกของเรื่อง การทำสัญญานั้นทำให้ปีศาจตนนั้นคอยดูแลเอาใจใส่ คอยช่วยเหลือและปกป้องคนที่ตนทำสัญญาด้วย แต่ทว่าเมื่อคนนั้นตายไปวิญญาณของเขาจะตกเป็นของปีศาจตนนั้น ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเหมือนกันหรือเปล่า แต่ดูท่าทางการทำสัญญากับความเอาใจใส่เหมือนกันเด๊ะ แถมภาพตอนจบเพลงเปิดเรื่องยังชวนคิด เมื่อซิเอลนั่งหลังบนเก้าอี้หินในซากปรักหักพังของคฤหาสน์แฟนทอมไฮฟ์ เซบาสเตียนได้เดินเข้ามาสัมผัสที่ไหล่ ก่อนที่ซิเอลจะกลายเป็นเพียงขนนกสีดำ ซึ่งตอนเปิดเรื่องตอนที่ทำสัญญาเซบาสเตียนปรากฏตัวในลักษณะนกตัวดำสนิท ที่มีขนมากมายปลิวไปทั่ว เฮ่อ ก็เป็นเพียงการคาดเดา แต่พันธะสัญญามันต้องมีอะไรที่คุ่มค่าพอที่จะทำให้ปีศาจตนหนึ่งยอมตามรับใช้มนุษย์ใช่ไหมล่ะ แต่มันคืออะไรหว่าอยากรู้จัง ...








วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2552

Rental Magica

เป็นเรื่องของเหล่าจอมเวทย์ (มั้งเรียกไม่ถูกแฮะ 555+) บนโลกใบนี้ที่มนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆ ไม่รู้ว่าบนโลกใบนี้ได้มีเวทมนต์ต่างๆ นานาเต็มไปหมด

แอสทรอล คือ สนง.ของจอมเวทย์ที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยพ่อของอิทสึกิ โดยจะรับจ้างทำงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับเวทย์มนต์และวิญญาณรวมถึงงานที่ทางสมาคมเวทย์มนต์ส่งให้มาด้วย แต่เนื่องจากว่าพ่อของอิทสึกิได้หายตัวไป อิทสึกิจึงต้องรับช่วงต่อสนง.แทน ทั้งๆที่ไม่ได้มีความสามารถอะไรนอกจากดวงตาข้างขวาที่สามารถมองเห็นเหล่าวิญญาณได้

โดยเหล่ามีบรรดาสมาชิกได้แก่ โฮนามิ ซึ่งเป็นผู้ชำนาญด้านมนต์เซลติกและเป็นเพื่อนสมัยเด็กของอิทซึกิ มิคังและเนโกะ ยาชิกิ พี่น้องที่เป็นผู้เชียวชาญพิเศษศาสนาชินโต คุโรฮะ เด็กฝึกหัดที่มีความสามารถพิเศษ

แต่กระนั่นแอสทรอลก็มีคู่แข่ง คือ เกเทียร์ซึ่งเป็นตระกูลผู้ดีที่มีความสามารถในการควบคุมสัตว์ปีศาจ 72 ตัวซึ่งมีพลังอำนาจมาก ซึ่งผู้นำคนปัจจุบันคือ อคิลิเซียร์ ซึ่งได้ย้ายสนง.มาที่ญี่ปุ่นเมื่อรู้ว่าแอสทรอลได้เปลี่ยนผู้นำคนใหม่



(เจ๊ ที่ผมยาวเป็นลอนสวยๆ นั่นล่ะ อคิลิเซียร์ ผู้นำ เกเทียร์ ส่วนผู้ชายที่ตาข้างขวาสีแดงๆ คือ อิทสึกิ)


แต่ต่อไปในภายภาคหน้าทั้งสองกลุ่มจะต้องร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับภัยมืดที่จะย่างกลายเข้ามาถึงในไม่ช้าแน่ๆ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป คงต้องบอกว่าไปพยายามหาดูต่อเอาเอง อิอิ เพราะเราเพิ่งเห็นมาลงที่ mthai แค่สองตอน





เรียงลำดับจากในผู้ชายริมสุด คือ เนโกะ คนต่อมาคือ โฮนามิ คนกลาง อิทสึกิ อคิลิเซียร์ และมิคัง

เรื่องเก่าที่เราเคยเล่าให้ฟังไป Yozakura Quartet ตอนที่โพสต์ไว้ถูกลบเกลี้ยงเลย สรุปแล้ว อดดู TT^TT เศร้าเนาะ
ปล.ซับไทยโดย AS-Fs


ผู้หญิงน่ารักๆ ผมสีดำยาว คนนี้คือ คุโรฮะ จ้า

วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2552

Yozakura Quartet

นานมาแล้ว..มนุษย์ได้ส่งโยไคไปยังมิติที่ถือกำเนิดขึ้นมา (โยไค หมายถึง ปีศาจ ภูตผี โดยทั่วไปหมายถึงพวกที่มีพลังเหนือธรรมชาติ) ต้นซากุระนั้นได้ถูกปลูกขึ้นมา ต้นซากุระได้ถูกเรียกว่า “นานะ โก” เป็นทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโลกของโยไคและเป็นหนทางเดียวที่จะส่งโยไคจากโลกมนุษย์ไปยังบ้านเกิดได้สืบต่อเนื่องกันมาอย่างยาวนาน มนุษย์ได้เริ่มข่มเหงรังแกโยไค



เพื่อที่จะได้กลับไปยังบ้านเกิดจึงได้รวบรวมดินแดน เมืองที่โยไคเป็นผู้สร้างได้ถูกเรียกว่า”เมืองซากุระชิน” เป็นเมืองที่โยไคและมนุษย์ได้อาศัยอยู่ร่วมกัน โยไคได้ปฏิเสธการกลับสู่บ้านเกิดและได้ตั้งรกรากอยู่ที่เมืองนี้ปีแล้วปีเล่า ปัจจุบันนี้พลเมืองมากกว่าครึ่งเป็นโยไค




อีกด้านหนึ่ง โยไคที่ทำอันตรายแก่มนุษย์จะถูกส่งกลับไปยังบ้านเกิดขบวนการที่ขับดันออกมานี้เรียกว่า “ทูนนิ่ง” มนุษย์ที่ทำการทูนนิ่งมีเพียงคนเดียวเท่านั้น คนๆนั้นจะได้รับช่วงต่อตระกูลฮิอิซึมิ





เรื่องราวของคนสี่คนได้แก่ อากินะ ผู้สืบทอดตระกูลฮิอิมิซึซึ่งเป็นประธานสำนักงานให้คำปรึกษาโยไคกับสมาชิกคือ อาโอ ผู้เป็นซาโทริ และ โคโตฮะ ผู้ใช้โคโตคามะ อีกคนหนึ่งคือ นายกเทศมนตรีของเมืองซึ่งเป็นร่างแปลงของมังกรชื่อฮิเมะ (อันที่จริงเรื่องนี้ฮิเมะ เด่นมากๆ เราว่าฮิเมะต้องแอบปลื้มอากินะแน่ๆว่าไหม อิอิ) ทั้งสี่คนช่วยกันปกป้องเมืองซากุระชินจากภัยต่างๆ ที่คุมคามเข้ามาภายในเมือง เรื่องราวจะเป็นยังไง พยายามหาติดตามกันเอาเอง 555+ เพราะเราก็เพิ่งดูไปแค่ 2 ตอน อิอิ



***โคโตคามะ นิทานของญี่ปุ่นหมายถึงคำพูดศักดิ์สิทธิ์ พลังหรือวิญญาณในการใช้คำพูด
***ซาโทริ มีความหมายว่ารู้แจ้งเห็นจริง
***โอนิ คือ ยักษ์ ภูต ผี ปีศาจ มารหรืออสูร

ขอบคุณ ซับไทยโดย Alexandia และขอบคุณคนที่นำมาโพสต์ที่ mthai จ้า ถ้าเป็นไปได้ลงให้จบเลยน๊า อยากดู อยากดู




ประธานสำนักงานให้คำปรึกษาโยไค ฮิอิมิซึ อากินะ (ผู้สืบทอดตระกูลฮิอิมิซึ)

โคโตฮะ ผู้ใช้โคโตคามะ


อาโอ ผู้เป็นซาโทริ

นายกเทศมนตรีฮิเมะ เป็นร่างแปลงมังกร


เคียวสุเกะ เป็นโอนิ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของฮิเมะ

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Skip beat

โมคามิ เคียวโกะ หนีออกจากบ้านตาม ฟูวะ โช มาที่โตเกียวเพราะว่าโชต้องการที่จะเป็นนักร้อง เคียวโกะจึงต้องทำงานหลายแห่งเพื่อหาเงินมาใช้จ่าย ในขณะที่โชยังไม่ได้เข้าวงการ แต่เมื่อโชเข้าวงการเป็นนักร้องดังแล้วกลับถีบหัวส่งเคียวโกะ ความเค้นจึงได้อุบัติขึ้น เมื่อเคียวโกะอยากที่จะแก้แค้นโชแต่ก็ทำไม่ได้ โชจึงพูดเยาะเย้ยเคียวโกะว่าถ้าอยากแก้แค้นเขาให้เข้ามาในวงการ



เคียวโกะ จึงเปลี่ยนลุคตัวเองซะใหม่และพาตัวเองเข้าสู่วงการบันเทิง แต่ทว่าหนทางสายแก้แค้นในวงการบันเทิงมันไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อเธอต้องผ่านด่านการคัดตัวมากมายพร้อมด้วยคู่แข่งฝีมือเยี่ยมที่รักการแสดงจริงๆ แถม ซูรูงะ เรน ที่เป็นดาราอันดับหนึ่งชาย ยังไม่ชอบหน้าเธออีกเพราะได้รู้ว่าเธอต้องการเข้าวงการเพื่อที่จะแก้แค้น ฟูวะ โช ซึ่งเขาไม่เห็นด้วยกับเหตุผลอันนี้ จึงแกล้งเคียวโกะที่พยายามจะเข้าสังกัดเดียวกับตัวเองบ่อยๆ ถึงแม้ตอนหลังเขาจะเริ่มยอมรับความสามารถของเธอ แต่เพราะเธอต้องการจะแก้แค้นทำให้เขายังไม่ยอมรับเธออยู่ดี

ประธานบริษัทที่เคียวโกะต้องการเข้าสังกัด เสียดายความสามารถของเธอ แต่เขาเห็นสิ่งที่ขาดหายไปซึ่งมันทำให้เธอไม่สามารถเป็นนักแสดงได้ นั่นก็คือความต้องการที่จะให้คนอื่นมารักตัวเอง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่ง แต่เคียวโกะได้สูญเสียมันไปเพราะถูกฟูวะ โชหักอก (อันที่จริงน่าจะเรียกว่าหักหลังมากกว่ามั้ง -*- )ประธานจึงได้ตั้งแผนกใหม่ที่มีชื่อว่า Love Me ขึ้น โดยให้เคียวโกะเป็นเจ้าหน้าที่ของแผนก หน้าที่ของเธอคือคอยช่วยเหลือคนอื่น ให้คนอื่นหันมารักเธอ โดยแต่ละคนจะมีตราปั้มเพื่อให้คะแนนเธอในการทำงานแต่ละครั้ง ซึ่งเมื่อได้คะแนนมากพอ เธอก็จะได้เปิดตัวในฐานะนักแสดงของค่ายดังยักษ์ใหญ่ที่มีซูรูงะ เรน เป็นดาราชายอันดับหนึ่งของประเทศ และเป็นค่ายที่ใหญ่กว่าของฟูวะ โช และเธอก็จะแก้แค้นได้สำเร็จ (แต่มันจะสำเร็จจริงเหรอ -*- 555+)

เรื่องนี้ฮากลิ้งมาก ตอนแรกก็ไม่คิดอยากดูหรอกเพราะเราชอบแนวมันส์ๆ มากกว่า หรือไม่ก็แนวสืบสวนปนสยองแบบ ghost hunt แต่พอลองดู สนุกอ่ะ ฮามากๆ ด้วย และก็กริ๊ดดดดด เรน สุดๆเลย ให้ตายซิหล่อแบบเชือดนิ่มจริงๆ (หล่อแบบโหดๆ อ่ะ -*-)

อ้อต่ออีกนิด sub thai by Sukza นะ เราดูเรื่องนี้และหลายๆเรื่องที่ mthai นะ แต่ไม่ได้ขออนุญาตเขามาทำเรื่องย่อหรอก เพราะไม่แน่ใจว่าไอ้ที่ทำอยู่มันเรียกว่าอะไร แต่พูดกันแบบเพื่อนๆล่ะก็ เล่าให้ฟังอ่ะ เราดูมาแล้วนะ ชอบคนนี่สุดๆ เลย 555+ ประมาณนี่ล่ะ

Bye Bye \*0*/ พบกับเรื่องต่อไปสัปดาห์หน้าวันที่เราขยัน งุงิ




โมคามิ เคียวโกะ

ฟูวะ โช

ซูรูงะ เรน
ปล. กุ๊กไก่โรคจิตที่เราเห็นก็คือ โมคามิ เคียวโกะ นั่นล่ะ

วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2552

Iriya no Sora,UFO no Natsu

ประเทศญี่ปุ่น การดำเนินชีวิตของทุกคนกำลังดำเนินไปอย่างสงบ โดยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วสงครามได้ก่อตัวขึ้นและกำลังดำเนินไปมานานแล้ว


อาริยะ คานะ เด็กสาวนักบินรบรุ่นพิเศษซึ่งได้รับเทคโนโลยีมาจากยานอวกาศมนุษย์ต่างดาวกำลังป่วยหนักและสุขภาพจิตตกต่ำเพราะเธอได้สูญเสียเพื่อนนักบินที่ร่วมรบกันมาไปจนหมด ทำให้เธอหมดหวังและไม่ต้องการที่จะขึ้นบิน ร้อนถึงผู้ดูแลเนื่องจากว่าเหลือเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่สามารถขับเครื่องบินรบรุ่นพิเศษได้และถ้าเธอไม่ขึ้นบิน ญี่ปุ่นก็จะแพ้สงครามไปโดยปริยาย

อาริยะและผู้ดูแลได้ย้ายฐานมาอยู่ฐานทัพอากาศในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง ผู้ดูแลเธอได้ให้อาริยะเข้าโรงเรียนเพื่อต้องการให้เธอได้เจอใครสักคนหรืออะไรบางอย่างที่เธอต้องการจะปกป้องเพื่อให้เธอมีกำลังใจและความมุ่งมั่นที่จะขับเครื่องบินรบอีกครั้ง เพื่อปกป้องสิ่งที่เธอคิดว่าสำคัญหลังจากที่เพื่อนของเธอได้ตายไปในสงครามหมดแล้ว





คืนก่อนวันเปิดเทอมอาริยะได้ไปที่สระว่ายน้ำของโรงเรียนในเวลากลางคืนในขณะเดียวกันที่ อาซาบะ สมาชิกชมรมหนังสือพิมพ์ของโรงเรียนได้กลับมาจากการสังเกตการฐานทัพอากาศและตั้งใจจะแอบเข้าไปว่ายน้ำในสระ
ของโรงเรียนเพื่อปิดท้ายฤดูร้อน และคืนนั้นทำให้ทั้งสองคนได้พบกันเป็นครั้งแรก






วันต่อมาอาริยะได้เข้ามาสู่โรงเรียนในฐานะนักเรียนใหม่ อาซาบะสังเกตเห็นว่าอาริยะมีอาการผิดปกติหลายอย่าง ทั้งเรื่องความวิตกกังวลและสุขภาพที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งยังหายตัวไประหว่างเรียนบ่อยๆ แต่อาซาบะก็ปฏิบัติกับเธอด้วยดีเพราะเขาเองก็รักอาริยะและอาริยะก็รักอาซาบะเหมือนกัน


อาริยะพยายามจะอยู่ใกล้ชิดอาซาบะและขอให้ผู้ดูแลช่วยเคลียร์งานให้เธอสามารถไปโรงเรียนเพื่อไปพบอาซาบะได้ และในขณะที่สงครามกำลังขยายตัวและไม่สามารถปกปิดไว้ได้ต่อไป อาซาบะจึงได้รู้ว่าอาริยะเป็นนักบินรบ และเธอกำลังป่วยนักหนักจนใกล้ตายแต่ว่าเธอก็ยังขึ้นไปขับเครื่องบินรบอยู่ทั้งๆที่อาริยะ ไม่ต้องการจะขับมันอีกแล้ว


อาซาบะตัดสินใจพาอาริยะหนี ระหว่างที่เกิดสงครามขึ้น ทำให้ผู้ดูแลและทหารได้ตามล่าออกหาตัวทั้งคู่ ระหว่างการหลบหนีไปตามเมืองที่เงียบเหงาเพราะสงคราทั้งคู่ต้องเจอปัญหาหลายอย่าง ทั้งที่อยู่และเงินที่เริ่มหมดลงไปทุกที และอาการป่วยทางจิตของอาริยะที่กำเริบจนทำร้ายอาซาบะ และเกิดอาการสูญเสียความทรงจำ อาริยะจำอาซาบะไม่ได้ และเอาแต่พูดว่าจะรอเจออาซาบะทั้งๆที่อาซาบะ อยู่กับเธอตลอดเวลา


อาซาบะถึงแม้จะเจ็บปวดแต่ก็พยายามจะดูแลอาริยะเต็มที่ เขาตั้งใจจะไปหาคุณตาเพื่อขอความช่วยเหลือจึงพาอาริยะเริ่มออกเดินทาง ระหว่างทางอาริยะมักจะถามหาอาซาบะอยู่เสมอ เขาเองไม่รู้จะทำยังไงจึงได้แต่ตามน้ำไปเรื่อย จนกระทั้งไปถึงบ้านคุณตาจึงพบว่าผู้ดูแลอาริยะได้มาถึงก่อนแล้ว


อาซาบะตัดสินใจให้อาริยะกลับเข้าสู่กองทัพเพราะอาการอาริยะทรุดหนักและใกล้ตายเต็มที่ เพื่อให้อาริยะได้รับการดูแลรักษา หลังจากกลับมาบ้านอาซาบะเอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องเพราะว่ากำลังอยู่ในช่วงระหว่างสงคราม โรงเรียนได้ปิดชั่วคราว และเขาก็กำลังรอให้ผ่านวันดีเดย์ไป ซึ่งผู้ดูแลบอกว่าวันนั้นจะเป็นวันที่อาริยะขึ้นบินครั้งสุดท้ายถ้าชนะพวกเขาและอาริยะก็รอด แต่ถ้าแพ้ก็ตาย


วันดีเดย์ได้ผ่านพ้นไป ข่าวออกประกาศยุติสงคราม โรงเรียนเปิดเรียนตามปกติ อาซาบะไปโรงเรียนโดยที่อาริยะไม่ได้มาโรงเรียนอีกแล้ว ทุกอย่างสำหรับเขากำลังผ่านพ้นไปโดยอาริยะกำลังจะกลายเป็นความทรงจำส่วนหนึ่ง แต่ทว่าก็มีทหารมาทีโรงเรียน เพื่อมาพาตัวเขาไปพบกับอาริยะอีกครั้ง


พอไปถึงฐานทัพบนเรือรบขนาดใหญ่อาซาบะได้รู้ว่าอาริยะคลั่งไม่ยอมขับเครื่องบิน ผู้ดูแลจึงตามเขามาเพื่อพูดให้อาริยะยอมขับ แต่อาซาบะรู้ถึงความเจ็บปวดของอาริยะและเขาไม่ต้องการจะให้อาริยะทรมานอีก เขาจึงตัดสินใจไม่ทำตามความต้องการของผู้ดูแลและประกาศว่าจะฆ่าทุกคนที่จะให้อาริยะขับเครื่องบิน


ในระหว่างที่อาซาบะกำลังเผชิญหน้ากับทหารที่ปิดล้อมอยู่ อาริยะได้รับรู้ถึงความต้องการของตนเองที่อยากจะปกป้องอาซาบะ เธอจึงตัดสินใจขับเครื่องบินรบอีกครั้ง และครั้งนี้เธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ความต้องการและความสุขที่จะปกป้องอาซาบะ


อาริยะหลังจากที่ตัดสินใจขับเครื่องบินรบอีกครั้ง ฐานทัพอากาศก็ได้ย้ายออกไปจากเมืองไปยังฐานแห่งใหม่ อาซาบะยังคงดำเนินชีวิตเด็กนักเรียนธรรมดาต่อไปและยังมองฟ้าคิดถึงอาริยะที่ขับเครื่องบินรบอยู่เหนือน่านฟ้าที่ไหนสักแห่งด้วยความสุข


***เรื่องนี้สั้นมากแต่ก็ดีแล้วที่สั้นเพราะเราทนรับไม่ไหว เพราะเราเองก็ไม่ชอบดูเรื่องรักๆสักเท่าไรแต่ดูเรื่องนี้แล้วซึ้งเลย เวลาเราดูการ์ตูนแนวยานรบมักจะนึกถึงเพลงมันส์ๆ เนื้อเรื่องบู๊แหลก แต่กับเรื่องนี้เราจะเห็นความรู้สึกของนักบินที่สูญเสียเพื่อนไปในสงครามจนหมด ความสิ้นหวัง อาการบาดเจ็บที่จ้องคร่าชีวิต แต่กระนั้นก็ยังจะทิ้งหน้าที่สำคัญไปไม่ได้


***ได้เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง(อาซาบะ)พยายามจะปกป้องคนที่ตัวเองรัก ถึงแม้อีกฝ่ายจะเสียสติทำร้ายอาซาบะ หรือแม้กระทั้งจำอาซาบะไม่ได้ ลองคิดดูเองแล้วกัน อาซาบะยืนอยู่หน้าอาริยะ แต่อาริยะกลับบอกว่ากำลังรออาซาบะ พออาซาบะถามอริยะว่า “นี่อาริยะฉันเป็นใคร” อาริยะกลับบอกชื่อของเพื่อนอีกคนหนึ่งมาแทน เศร้าไหมล่ะ


***สุดท้ายอาริยะก็ตัดสินใจขับเครื่องบินรบเข้าสู่สงครามอีกครั้งอย่างมีความสุข ทำไมถึงมีความสุขล่ะ ก็เพราะความต้องการอันเต็มเปี่ยมและความมุ่งมั่นที่จะปกป้องคนที่ตัวเองรักไง


***ดูเรื่องนี้ทำให้คิดถึงคุณทหารหาญที่กำลังทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติอยู่ที่ไหนสักแห่ง สู้ๆ เขานะค่ะ ^^

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2552

AYAKASHI [คำสาปพลังมรณะ]

คืนหนึ่งในฤดูร้อน ฮิเมะ ยู และอิซึมิ ได้ยืนมองดูดาวตกด้วยกัน เด็กทั้งสามคนต่างก็อธิฐานขอพรจากดาวตกนั้น และยูเองขอให้ตัวเองเป็นผู้พิทักความยุติธรรม เพื่อจะได้ปกป้องฮิเมะและอิซึมิ
12 ปีต่อมา
โรงเรียนมัธยมหลังเลิกเรียน ยูได้นัดกับเพื่อนไว้เพื่อไปแสดงโชว์การงอช้อน ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษของยู



ระหว่างทางเขาเจอรุ่นพี่ซานาดะและลูกน้องกำลังทำร้ายเพื่อนนักเรียนของเขาอยู่ แต่ยูไม่สนใจเพราะไม่ใช้เรื่องของตัวเองจึงจะเดินหนีแต่ทว่าซานาดะได้เรียกเขาเอาไว้เพื่อที่จะหาเรื่อง โชคดีที่รุ่นพี่คาจิวาระเดินผ่านมาจึงได้ช่วยพาทั้งสองคนออกมาจากซานาดะได้
หลังจากจบเรื่อง ยูได้ไปตามนัดเพื่อแสดงการงอช้อน ยูเริ่มแสดงไปได้สักพักฮิเมะที่ไม่ชอบให้ยูแสดงพลังดังกล่าวก็



ตามมาห้ามและลากตัวยูกลับบ้าน
ที่หน้าประตูโรงเรียนซานาดะได้ให้ลูกน้องมายืนดักรอเพื่อเอาตัวยูไปหาเขา ยูจึงพาฮิเมะวิ่งหนีรอดมาได้ ทั้งคู่เดินไปตามทางกลับบ้านจนไปถึงต้นซากุระพันปีซึ่งเป็นสถานที่ที่อิซึมิเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน ปรากฏว่าซานาดะได้มาดักรอทั้งคู่อยู่ที่นั้น และได้ใช้พลังที่ทั้งคู่ไม่เคยรู้จักเข้าทำร้ายแต่ทว่า ยูและฮิเมะก็ได้รับความช่วยเหลือจากเอมุ ผู้มีพลังอายาคาชิเช่นเดียวกับซานาดะ




วันต่อมาเอมุได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนเดียวกันกับยูในฐานะเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนเพื่อต้องการจะปกป้องยู
จากเหล่าผู้ใช้อายาคาชิ และไม่ต้องการให้ยูใช้พลังอายาคาชิเช่นตนเอง เพราะผู้ใช้พลังอายาคาชิจะโดนพลังนั่นกัดกินด้วย





แต่ทว่าเมื่อซานาดะได้กลับมาอีกครั้งอย่างโกรธแค้นและในสถานการณ์ที่เอมุต้องปกป้องคนหลายคนทำให้เธอไม่สามารถต่อสู้ได้ถนัด เอมุจึงได้รับบาดเจ็บ และมีผู้คนล้มตายยูเองที่ทำได้แค่เพียงยืนดูอย่างเจ็บแค้นและเป็นห่วงเอมุ ได้ระเบิดความโกรธออกมาทำให้พลังอายาคิชิภายในตัวตื่นขึ้น





และแล้วการต่อสู้ระหว่างผู้ใช้อายาคาชิจึงได้เริ่มขึ้นและดำเนินไปท่ามกลางความเศร้าเมื่อความจริงต่างๆเริ่มเปิดเผย รวมถึงการตายของอิซึมิเพื่อนสนิทที่ยูแอบรักมาตั้งแต่เด็กและเขายังคงคิดถึงเธอเสมอ

เรื่องนี้เราเทใจให้เอมุ T^T เอมุน่าสงสาร เอมุสู้ๆ




เอมุตัดสินใจออกจากกลุ่มผู้ใช้อายาคาชิเพื่อออกตามหายูและปกป้องเขาจากกลุ่มผู้ใช้อายาคาชิทำให้ต้องเป็นศัตรูกับพี่สาวของตนเอง (ยักษ์ของเอมุกับพี่สาวคืออายาคาชิที่มีพลังมากกว่าอายาคาชิทั่วไป ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเรียกว่า ยักษ์ผู้พิทักษ์ -*- )

ซานาดะ คาจิวาระ และฮิเมะ