++++ประกาศข่าว++++

สวัสดีค่ะ กลับมาเยี่ยมเยียนบล็อกตัวเองหลังจากหายไปปีกว่า เร็วๆนี้จะมาอัพเพิ่มค่ะ 2/09/58

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

Nabari no Ou จงเป็น [ราชา] นินจาซะ


ยุคปัจจุบันที่เรื่องนินจาเหมือนเป็นเพียงเรื่องเล่าขานหรือตำนานไปแล้วแต่ทว่าเหล่านินจานั้นยังคงอยู่ท่ามกลางคนทั่วๆไปโดยผู้คนเหล่านั้นไม่ได้รู้ตัวเลย ซึ่งบรรดานินจาจะประกอบอาชีพเฉกเช่นคนทั่วไปในโลกเบื้องหน้า แต่ในโลกนาบาริพวกเขาคือนินจาที่ปฏิบัติหน้าที่ให้หมู่บ้านของตน





10 ปีก่อนโลกนาบริได้ปรากฏฮิจุทสึหรือชินระบันโชขึ้นหลังจากที่สูญหายไปหลายร้อยปี ชินระบันโชนั้นคือองค์ความรู้ที่จะเติมเต็มความปรารถนา ได้แก่ กาลเวลา ธรรมชาติ หรือแม้จิตใจมนุษย์ พลังนี้ก็สามารถควบคุมได้ ทำให้เป็นที่ต้องการของเหล่าหมู่บ้านนินจาต่างๆ เพื่อที่จะได้ขึ้นเป็นราชานินจา





ชินระบันโชนั้นได้ปรากฏขึ้นในตัวเด็กน้อยที่มีชื่อว่า มิฮารุ แห่งหมู่บ้านบังเต็น แต่ทว่าในตอนนั้นมิฮารุได้ใช้พลังไปโดยไม่รู้ตัวทำให้ทุกคนลืมเรื่องราวของชินระบันโชและมิฮารุในตอนนั้นไปโดยชิ้นเชิง รวมถึงความทรงจำทั้งหมดของมิฮารุก็หายไปด้วย






10 ปี ต่อมา นินจาจากทุกหมู่บ้านยังคงตามหาชินระบันโชถึงแม้จะลืมไปแล้วว่าชินระบันโชได้เคยปรากฏออกมาแล้วเมื่อ 10 ปีก่อน แต่ในที่สุดนินจาแห่งหมู่บ้านไคโรชูก็ได้รู้ว่าชินระบันโชได้สิงสถิตอยู่ในตัวมิฮารุ พวกเขาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อจะนำมันไป แต่ในขณะเดียวกัน คุโมฮิระ โทบาริ ดูแรนดอล ซึ่งเบื้องหน้าเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษนั้น แท้จริงแล้วคือผู้รักษาการหัวหน้าหมู่บ้านบังเต็นและรู้อยู่ก่อนแล้วว่าชินระบันโชได้อยู่ในตัวมิฮารุ



เขาและ ไอซาว่า โคอิจิ ซึ่งเป็นเพื่อนนักเรียนของมิฮารุ ได้คอยดูแลอยู่ห่างๆ แต่เมื่อพวกเขารู้ว่าไคโรชูได้เริ่มเคลื่อนไหวเพื่อแย้งชิงชินระบันโช พวกเขาจึงตัดสินใจบอกเรื่องชินระบันโชให้กับมิฮารุ และสัญญากับมิฮารุว่าเขาจะปกป้องและทำให้มิฮารุเป็นราชานินจาอย่างที่สมควรจะเป็น





โรคุโจ มิฮารุ ซึ่งสูญเสียความทรงจำทั้งหมดเมื่อ 10 ปีก่อนไปได้อาศัยอยู่กับป้า โดยที่ตัวเขาเองจำไม่ได้ว่าความจริงแล้วเขาสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างไร เพราะป้าของมิฮารุเป็นคนในโลกเบื้องหน้าที่ไม่เคยรู้การมีอยู่ของนาบาริ หลังจากการสูญเสียความทรงจำมิฮารุกลายเป็นคนเย็นชา เพิกเฉยต่อผู้คนรอบข้าง จนกระทั้งโทบาริและไอซาว่าบอกเรื่องโลกนาบาริและต้องการให้เขาเป็นราชานินจา

แต่มิฮารุกลับเพิกเฉยและตอบกลับไปโดยไม่สนใจว่าตัวเองเพิ่งถูกฝ่ายไคโรชูทำร้ายมาว่า “ผมแค่ต้องการเอาชีวิตที่น่าเบื่อของผมคืนมาเท่านั้น” แต่กระนั้นมิฮารุก็ไม่อาจหนีจากชะตาชีวิตของตัวเองได้ เขาต้องเข้าไปพัวพันกับโลกนาบาริ และพยายามหาหนทางนำชินระบันโชออกไปจากตัวให้ได้ เพื่อนำชีวิตเก่าๆที่แสนจะน่าเบื่อของเขากลับมา

หลังจากข่าวการปรากฏขึ้นของชินระบันโชแพร่สะพัดออกไป ชิมิซึ ไรเม ซามูไรผู้ควบคุมกฏของหมู่บ้านนินจาฟูมะได้เดินทางมาพบมิฮารุเพื่อตรวจสอบข่าวว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าผู้ครอบครองชินระบันโชเป็นเพียงเด็กผู้ชายตัวผอมและอ่อนแอ แตกต่างจากความคิดของไรเมโดยชิ้นเชิง แต่ทว่าเมื่อไรเมได้สังเกตดูมิฮารุจึงได้พบว่า นอกจากข้อเสียสองข้อข้างต้นแล้วมิฮารุยังเป็นคนเฉื่อยชา ความรู้สึกช้า และไม่สนใจผู้คนรอบข้างเลย แต่เพื่อนๆ ต่างก็แพ้ทางมิฮารุ เพราะมิฮารุแท้จริงแล้วเป็นคนเจ้าเล่ห์จนได้ฉายาจากเพื่อนๆ ว่าปีศาจนั่นเอง

ชิมิซึ ไรเม ซามูไรจากตระกูลใหญ่ซึ่งล้มสลายไปเนื่องจากการอาละวาดของไรโค พี่ชายของไรเม เธอพยายามตามหาตัวเขาเพื่อล้างแค้นโดยที่สิ่งที่เธอเข้าใจนั้นได้ถูกบิดเบือนไปจากความจริงที่แสนเศร้า เมื่อไรโคได้พาความจริงของการล้มสลายทั้งหมดไปอยู่กับฝ่ายไคโรชูเพื่ออุดมการณ์ของตนเอง และที่สำคัญคือเพื่อปกป้องน้องสาวผู้เป็นที่รักถึงแม้ตัวเองจะโดนน้องสาวเกลียดและตามล้างแค้นก็ตาม

มิฮารุ ไอซาว่า โทบาริ และไรเมได้เดินทางไปยังหมู่บ้านฟูมะเพื่อหาทางนำชินระบันโชออกจากตัวมิฮารุ และทำลายมันทิ้งเพื่อหยุดสงครามการแย้งชิงนี้ไปซะ แต่ทว่าเมื่อไปถึงกลับพบว่าหมู่บ้านฟูมะกำลังถูกฝ่ายไคโรชูโจมตีจนเสียหายอย่างนักและสูญเสียชีวิตไปมากมาย ทั้งหมดจึงพยายามเข้าช่วย จึงได้พบกับผู้นำการโจมตีของฝ่ายไคโรชู นั้นคือ ยูคิมิ และผู้ใช้วิชาต้องห้ามของหมู่บ้านไคโรชู ซึ่งเป็นวิชาที่น่าสะพรึงกลัวจนผู้ใช้ถูกเรียกว่าปีศาจ และคนคนนั้นคือ โยอิเทะ

นั่นเป็นการพบกันครั้งแรกของมิฮารุและโยอิเทะ ที่ปรากฏตัวราวกับปีศาจเขาทำให้ โทบาริ ไรเม และไอซาวา บาดเจ็บโดยที่ทั้งสามไม่สามารถทำอะไรได้ ตัวมิฮารุเองก็โดนเหมือนกัน สำหรับมิฮารุ โยอิเทะที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับปีศาจที่กำลังจะฆ่าเขาและเพื่อนๆ แต่สำหรับโยอิเทะแล้วมิฮารุคือความหวังสุดท้ายที่จะทำให้เขาหลุดพ้นจากชีวิตที่เจ็บปวดทรมานนี้ไปได้

โยอิเทะได้แอบมาพบมิฮารุอีกครั้งเพื่อยื่นข้อเสนอโดยถ้ามิฮารุไม่ช่วยเขาจะฆ่าทุกคนทิ้งซะ มิฮารุจึงยอมรับข้อเสนอ คือการใช้ชินระบันโชลบโยอิเทะออกไปจากโลกใบนี้ซะ (โยอิเทะไม่อยากเกิดมาบนโลกใบนี้นั้นเอง เพราะโลกที่เขาเกิดมาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความเหงาและทรมานจากการถูกพ่อแม่เพิกเฉยทอดทิ้ง ปล่อยให้ตาย จนในที่สุดหัวหน้าไคโรชูได้พาเข้าหมู่บ้านและเป็นนินจาผู้ใช้คาถาต้องห้าม ถึงแม้เขาจะรู้ว่านั่นจะทำให้เขาตายในที่สุดก็ตาม แต่ในที่สุดเขาได้รู้ว่าสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความตาย แต่คือการไม่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้ต่างหาก)

มิฮารุและโยอิเทะจึงแอบร่วมมือกันลับๆ เพื่อหาวิธีใช้ชินระบันโชเพื่อลบโยอิเทะออกไป แต่ทว่าเวลาของโยอิเทะก็ลดน้อยลงไปทุกที เพราะวิชาต้องห้ามนั้นได้กัดกินพลังชีวิตของโยอิเทะไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็วและไม่มีทางหยุดจนกว่าเขาจะตายภายในไม่กี่เดือน โยอิเทะอยู่ได้เพราะยาแก้อาการเจ็บปวดและพลังใจอย่างหนักเพื่อต้องการให้ความปรารถนาของตนเองเป็นจริง มิฮารุที่เฝ้ามองดูโยอิเทะเริ่มเข้าใจความรู้สึกทรมานของโยอิเทะ เพราะมิฮารุรู้สึกว่าโยอิเทะไม่แตกต่างจากตนเอง มิฮารุจึงช่วยโยอิเทะอย่างเต็มที่เพื่อให้เขาได้สมความปรารถนาถึงแม้ว่าในใจลึกๆของมิฮารุนั้นต้องการจะให้โยอิเทะมีชีวิตอยู่ต่อไปและได้รับความสุขเฉกเช่นคนอื่นๆก็ตาม

ที่จริงเรื่องนี้ตอนต้นก็ขำๆ ดี แต่พอเจอโยอิเทะเรื่องมันตึงขึ้นเรื่อยๆ เพราะโยอิเทะหงอมจนจะตายเหล่ไม่ตายเหล่แล้ว(แต่มันก็เก่งโคตร ไม่มีใครสู้ได้ เฮ่อๆ) ไปๆมาๆ กลายเป็นว่าโยอิเทะจะเป็นพระเอกของเรื่องไปซะงั้น 555+ เรื่องนี้เลยครบทุกรสเลย ขำ มันส์ เศร้า




บนสุดก็คือ โรคุโจ มิฮารุ ต่อมา อาจารย์โทบาริ ตามด้วยไอซาว่า และ ไรเม


ต่อมานินจาหมู่บ้านไคโรชู ได้แก่ ยูคิมิ คนขับรถ โยอิเทะ คนนั่งข้างๆ และ ไรโค พี่ของไรเมซึ่งเป็นซามูไรเหมือนกันจ้า
นี่คือท่านหัวหน้าหมู่บ้านฟูมะ กับผู้ช่วย

และหมู่บ้านไคโรชู หัวหน้ากับผู้ช่วยเหมือนกัน ผู้หญิงผมสีทองคือน้องของยูคิมิ


แถมท้าย กับเนื้อเพลงแปลในตอนจบของเรื่องมันมีสองเพลงเพราะมาก แต่นี้เป็นเพลงแรกชื่อว่าอะไรไม่รู้ แต่มันเหมือนกับว่านี่คือความในใจของมิฮารุที่อยากจะบอกโยอิเทะเลย พยายามเข้าใจหน่อยนะ ถ้าได้ดูเองแล้วจะรู้ว่าเพลงนี้ซึ้งมากๆๆๆ


ความรู้สึกท้อแท้ที่ดำดิ่งลงไปในหัวใจของฉัน

จะมีใครรับรู้บ้างไหมว่าไม่ใช่แค่พวกคุณที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว

ปรารถนาแสงสว่างเพื่อดลบันดาลให้เธอได้พบรัก

ความรู้สึกเหล่านั้นจะถูกแต่งแต้มบนเส้นทางของเธอ

เปิดประตูและพยายามดูอีกสักครั้ง

ด้วยวิธีใดดีนะ เพื่อที่จะให้เปิดประตูสู่วันพรุ่งนี้ได้

สายลมพัดพาน้ำตาที่ล่วงหล่นของเธอไป

และคอยยึดจับสายธารที่นำพาเธอขึ้นไปสู่ท้องฟ้าสีคราม

สายตาของเธอที่มองขึ้นไป นั่นล่ะคือเหตุผลที่ทำให้รู้สึกเดียวดาย

ฉันบอกเธอไม่ได้ แต่ขอให้เธอจงมีชีวิตในความฝันที่เต็มเปี่ยมของเธอเถอะ





สปอยเล็กๆ ท่อนนี้ฮาดี ลองนึกถึงเสียงคนแก่สองคนกำลังคุยกันแบบเบื่อหน่ายชีวิตนะ

มิฮารุกับโยอิเทะกำลังนั่งอยู่ระเบียงชานอย่างเรื่อยเฉยทั้งๆที่โยอิเทะเพิ่งรู้ตัวว่าสามารถมีชีวิตต่อได้แค่ 2 เดือน

มิฮารุ // แต่เวลาของนายเหลืออีกไม่มากใช่ไหม

โยอิเทะ// อืม

มิฮารุ//นี่มันสถานการณ์วิกฤตสุดๆเลยไม่ใช่เหรอ

โยอิเทะ//อืม

มิฮารุ//พวกเรากำลังรีบแท้ๆแต่ดูเหมือนไม่ทุกข์ร้อนเลยนะ


โยอิเทะ//นี่ก็ลนลานกว่าเดิมเป็นสิบเท่าแล้ว

มิฮารุ//แย่จัง

โยอิเทะ//แย่จังเนอะ

สรุปแล้วสองคนนี้มันเป็นพวกเรื่อยเฉยสุดๆ ดูซิขนาดมันรู้ว่าตัวเองจะตายภายในสองเดือนนะน่ะ


อีกเรื่อง เรื่องนี้มันไม่ y นะเฟ้ย ดูให้จบก่อนบ่น เพราะตอนหลังๆ ที่โยอิเทะเจ็บมากๆ (ใกล้ตายเต็มที) ฉากมันล่อแหลมไปหน่อย -*- ถ้าเพื่อนนายป่วยเจียนตายแถมต้องต่อสู้ปกป้องนายจนเจ็บสาหัสจนจะตายแถมยังแสดงอาการกลัวออกมา นายที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ ที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย นายจะกอดเพื่อนของนายไหม เพื่อที่จะบอกเขาว่าฉันอยู่ตรงนี้ไม่ต้องกลัว

sub thai by Soulciety
http://www.hinata.tirkx.com/
ที่จริงเราดูจาก mthai นะ แต่คนโพสต์ลบเรื่องนี้ไปแล้วอ่ะ TT^TT โชคดีนะที่ดูจบไปตั้งนานแล้ว เลยให้บ้านคนแปลแทน

อ้อ แถม OP และ ED ของเรื่องนะจ๊ะ


OP 01 Nabari no ou -


2 ความคิดเห็น:

  1. สนุกมาก พึงได้อ่านเล่ม 1 อยู่เลย

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ3 กันยายน 2553 เวลา 23:50

    เรื่องนี้ ไม่วายนะ

    คนเราชอบคิดอกุศล ถ้ามองตามธรรมชาติของมนุษย์
    ใครไปอยู่ในสถานการแบบนั้นก็ประมาณนี้แหละ
    เพื่อนจะตายแหล่มิแหล่แล้วใครจะมานั่งห่วงสายตาคนรอบข้าง
    เลือดเย็นไปหน่อยมั้ง

    ตอบลบ

ฝากข้อความไว้คุยกันเล่นๆนะ กันเจ้าของบล๊อกเหงา ^^